๑ . ขาดความระมัดระวัง ( คุณต้องรู้ว่าคุณอยู่ที่ไหนและต้องสังเกตเหตุการณ์รอบ ๆ
ตัวด้วยว่าอะไรเป็นยังไง )
๒ . ไม่ค่อยสนใจคนรอบ ๆ ตัวคุณ ( หมั่นสังเกตคนรอบข้างด้วยและต้องอยู่ในลักษณะที่เตรียม
พร้อมอยู่เสมอ )
๓ . ผิดที่ ผิดทาง ( ไม่ควรเดินในซอยเปลี่ยว .... ประเภท กลับดึก อยู่ก็ลึกในซอยเปลี่ยว หรือ
ขับรถไปตามย่านเปลี่ยว ๆ และอันตรายคนเดียว )
v รถกับผู้หญิง
สังเกตไหมคะว่าเวลาขึ้นรถผู้หญิงมักไม่ค่อยล็อกประตูรถทันทีมัวแต่สาระวนดูของ สำรวจของ
จัดของ ซึ่งทำให้คุณตกเป็นเหยื่อของพวกมิจฉาชีพได้ง่าย พวกนี้มักจับตามองผู้หญิงที่ไปไหนมาไหน
คนเดียวอยู่แล้ว และนี่เป็นโอกาสของพวกมิจฉาชีพที่จะเปิดประตูเข้ามานั่งในที่นั่งผู้โดยสารตอนหน้า แล้วเอาปืนจ่อหัวคุณพร้อมกับบอกให้คุณขับรถไปตามที่สั่ง ดังนั้น สิ่งที่ควรทำทันทีที่ขึ้นรถ คือปิดล็อกประตูก่อนคาดเข็มขัดนิรภัย อย่าพะวงกับการวารงจัดข้าวของ และควรจำข้อเตือนใจทั้งสาม
ข้อนี้ให้ขึ้นใจ
๑ . ต้องมีนิสัยช่างสังเกต หัดมองไปรอบ ๆ รถของคุณ มองรอบ ๆ ตัวคุณ มองเข้าไปในรถดูว่าบริเวณพื้นที่ว่างของที่จอดรถตรงด้านที่นั่งผู้โดยสารด้านข้างคนขับและด้านหลังมี
ใครซ่อนอยู่หรือเปล่า ถ้าเป็นไปได้ควรก้มดูบริเวณล้อยางก้มดูใต้ท้องรถด้วย
๒ . ถ้ามีรถตู้ รถคันโต ๆ จอดอยู่ติดกับรถของคุณ ให้เลือกขึ้นรถทางประตูที่ไม่ติดกับรถตู้ เช่น ถ้าจอดอยู่ด้านคนขับก็ให้ขึ้นด้านผู้โดยสารตอนหน้า ถ้าจอดติดกับด้านผู้โดยสารตอนหน้าก็ให้ขึ้นข้าง
คนขับ
๓ . ถ้าที่จอดรถที่จอดติดกับคุณ ด้านซ้ายหรือด้านขวา มีรถอีกคันจอดอยู่พร้อมกับมีผู้ชายนั่งอยู่ใน รถให้ลองเดินกลับเข้าไปในห้างหรือร้านค้าใหม่ รอจนมีคนเดินออกมาที่ลานจอดรถเยอะ ๆ แล้วจึงค่อยเดินออกมา ( ปลอดภัยไว้ก่อน ก่อนได้ยินคำว่าเสียใจ )
ควรเลือกขึ้น - ลงระหว่างชั้นด้วยลิฟต์ มากกว่าบันไดหนีไฟ เพราะบันไดหนีไฟมักไม่ค่อย
มีคนใช้ แต่ข้อแนะนำในการใช้ลิฟต์ก็มีดังนี้
๑ . ไม่ควรขึ้นลิปต์ตามลำพังถ้ามีผู้ชายท่าทางไม่น่าไว้ใจอยู่ในนั้น ( จริงอยู่ว่าบางครั้งผู้ชายท่าทางไว้ใจได้ก็ตัวร้ายเราดี ๆ นี่เอง แต่สรุปถ้าในลิฟต์มีแค่คุณกับผู้ชายที่ดูแล้วคุณสู้เขาไม่ได้ ก็อย่าขึ้นไปเลย รอให้มีคนอื่นสักสอง -
สามคนดีกว่า )
๒ . ควรยืนอยู่ใกล้ประตูลิปต์ให้มากที่สุดหรือยืนตรงแผงบังคับลิฟต์ไม่ควรยืนมุมในสุด
๓ . ถ้าคุณใช้ลิฟต์ที่ชั้น ๒๕ และพอลิฟต์มาถึงชั้น ๒๒ มีผู้ชายแปลกหน้าเข้ามา ก็ให้ออกไปเสีย และรอเรียกลิฟต์ใหม่
v ผู้หญิง ผู้ร้าย และปืน
ในกรณีที่ผู้ร้ายมีปืน แต่คุณไม่ได้อยู่ในวิถีกระสุน ให้วิ่ง .... วิ่งออกไปเร็วที่สุดจากตรงนั้นเพราะตำรวจมักจะยิงถูกเป้าประมาณอัตราส่วน ๔ ใน ๑๐ นัดใน
ระยะ ๓ - ๙ ฟุต ขณะที่ผู้ร้ายจะยิงถูก ๔ ใน ๑๐๐ นัด ดังนั้น โอกาสที่จะพลาดเป็นมีมากกว่า
v ผู้หญิงกับสถานการณ์ล่อแหลม
ถ้าหลีกเลี่ยงไม่ได้และคุณก้าวเข้าไปติดในสถานการณ์แบบนี้เต็มตัวแล้วก็พยายาม
ทำดังต่อไปนี้
๑ . หาทางหนีให้เร็วที่สุด ถ้าผู้ประสงค์ร้ายกำลังออกจากที่จอดรถและพยายามขับรถพาคุณ
ไปในที่เปลี่ยว อย่างปล่อยให้เขาทำสำเร็จ ในกรณีที่คุณเป็นคนขับรถพยายามหาทางขับรถชน
อะไรเร็วที่สุด ( คงไม่เจ็บมากหรอก เพราะคุณคงขับเร็วไม่ได้อยู่แล้วเวลาอยู่ในที่จอดรถ )
๒ . ในกรณีที่เขาเป็นคนขับรถ พยายามหาโอกาสเหมาะ ๆ แล้วใช้นิ้วนี่แหล่ะสะดวกที่สุดจิ้มเข้าไปในนัยน์ตาเขาทั้งคู่ เพราะเขาต้องพะวงกับการขับรถ ดังนั้นนี่เป็นโอกาสที่จะหนี วิ่งลงจากรถพร้อมทั้งกรีดร้องไปด้วย ห้ามเลิกร้องโดยเด็ดขาด ทำอย่างไรก็ได้ให้คนสนใจมากที่สุด
v ผู้หญิงกับการเดิน
เวลาเดินไปไหนมาไหนควรรักษาระยะห่างระหว่างคุณกับคนแปลกหน้าเอาไว้
v ผู้หญิงกับโทรศัพท์มือถือ
มีติดตัวไว้ก็ดี เวลาฉุกเฉิน หรือเวลาเลือกซื้อโทรศัพท์เลือกแบบที่โทร ๑๙๑ ได้ด้วย
ตัวเลข ๑ หรือเลข ๐ ตัวเดียว
v ผู้หญิงกับรถเสีย
พยายามตรวจสภาพรถทุกระยะเท่าที่เป็นไปได้ แต่ถ้ารถเสียจริง ๆ ควรทำต่อไปนี้
๑ . ผู้หญิงที่ขับรถควรพกมือถือหรือโทรศัพท์เคลื่อนที่พกพาทุกประเภท ควรโทรขอความช่วยเหลือและนั่งรอในรถพร้อมกับล็อกรถให้เรียบร้อย
๒ . ควรมีเสื้อคลุมหรือผู้ห่มไว้ในรถ และรองเท้าเดินสบาย ๆ รวมถึงไฟฉายไว้ในรถด้วย
๓ . ในกรณีที่คุณไม่มีโทรศัพท์มือถือ
- ถ้าเป็นช่วงกลางวัน วันทำงาน ให้เดินออกไปหาที่ปลอดภัย พร้อมกับหาที่โทรศัพท์เพื่อขอ
ความช่วยเหลือ
- ถ้าเป็นกลางคืน ควรแต่งกายให้เรียบร้อย แต่ถ้าใส่สายเดี่ยว นุ่งสั้น เปลือยหลัง ผ่าสูงก็ควรหาผ้าห่มหรือเสื้อคลุมคลุมร่างบกาย ให้เรียบร้อย ก่อนออกไปโทรศัพท์ เพื่อขอ
ความช่วยเหลือ
v ผู้หญิงกับการป้องกันตัว
๑ . ดวงตาเป็นอวัยวะที่ง่ายต่อการจู่โจมถ้ามีโอกาสทิ่มนิ้วนี่ล่ะเข้าไปในดวงตา
๒ . คอ ... คอเป็นจุดง่ายต่อการโจมตีอีกจุดหนึ่ง แต่ทางที่ดีคุณต้องรู้ด้วยว่าควรบีบตรงไหนที่ทำให้ผู้ประสงค์ร้ายหายใจไม่ออก
๓ . เข่า ... เตะเร็ว ๆ ที่เข่าหรือขาพับ ก็ทำให้ล้มได้แล้ว
๔ . จุดอ่อนไหวที่สุดของผู้ชาย ... ผ่าหมากไปเลยแต่ข้อสำคัญเวลาคุณต่อสู้ไปที่จุดเหล่านี้ ต้องทำให้ผู้นั้นล้มหรือเจ็บจนจุกหรือเสียการควบคุมตัวไปตั้งแต่คราวแรก ต้องมั่นใจว่าทำ
แล้วเจ็บจริง ไม่เช่นนั้นไม่ควรทำเพราะว่าถ้าคุณพลาดเป้าไปคุณจะลำบากอย่างแน่นอน
v ผู้หญิงกับที่เปลี่ยว
เวลาคุณเดินลำพังในที่เปลี่ยวหรือที่มืดแล้วพบว่ามีใครเดินตามควรทำดังนี้
๑ . ตะโกนว่า ไฟไหม้ อย่าตะโกนว่า ช่วยด้วยเป็นอันขาดเพราะไม่มีใครอยากเข้ามาช่วยคนที่เดือดร้อนสักเท่าไรหรอกแต่ไฟไหม้
ใคร ๆ ก็สนใจ
๒ . วิ่งเร็วที่สุด
๓ . หาอะไรสักอย่างขวางคุณกับเขาไว้ เช่า รถสักคัน วิ่งวนรอบรถ อาจเหมือนคนบ้าหรือ
ดูงี่เง่าไปบ้าง แต่มีผู้หญิงหลายคนรอดเพราะวิธีนี้มาแล้ว
๔ . หนทางสุดท้ายหาที่ซ่อน อาจเป็นใต้ท้องรถสักคัน เพราะว่าเขาไม่สามารถตามเข้ามาลากตัวคุณออกจากใต้ท้องรถได้แน่ ๆ และเขาคงไม่สามารถ
เข้ามาทำอะไรคุณใต้ท้องรถได้เหมือนกัน แต่ถ้าเลือกวิธีนี้คุณต้องฝึกฝนหน่อย คุณต้องมี การวางแผนที่ดีและคิดล่วงหน้าว่าคุณจะทำอย่างไร เข้าใต้ท้องรถจากทางด้านหน้า ด้านข้าง
หรือหลังรถ รวมถึง ควรนอนหงายเวลาอยู่ใต้ท้องรถจะได้เอาเท้ายันหน้าเขาได้สะดวก
v ผู้หญิงกับออฟฟิศ
ไม่ว่าที่ทำงานคุณจะเป็นแบบไหน ออฟฟิศ ร้านค้า ฯลฯ คุณไม่ควรอยู่ในนั้นเป็นคนสุด
ท้ายตาม ลำพัง อาจมีคนแอบดูคุณอยู่และรู้กิจกรรมในชีวิตประจำวันของคุณ รวมถึงไม่ควรทำ โอทีอยู่คนเดียว โดยไม่บอกคนทางบ้านไว้เพราะภัยส่วนหนึ่งในชีวิตเราก็มาจากคนคุ้นหน้านี่ล่ะค่ะ
สถานการณ์ทั้งหมดที่เขียนมานี่ไม่ได้ต้องการให้คุณเกิดความกลัว แต่อยากบอกว่าโลกของเราไม่ได้ปลอดภัยอย่างที่เราเห็น บางครั้งเราก็อาจต้องผจญกับ
ปัญหาต่าง ๆ บ้างเป็นธรรมดา อย่ามัวแต่คิดว่าเรื่องพวกนี้ไม่มีทางเกิดขึ้นกับตนเองเด็ดขาด เชื่อไหมว่ามีผู้หญิงตายทุก ๆ นาทีจากอาชญากรรมเหล่านี้ ผู้หญิงพวกนี้ก็เป็นเหมือนเรา ๆ
นี่ล่ะค่ะ เธอคาดหวังว่าจะกลับถึงบ้านนอนหลับสบายคืนนี้และตื่นมาอย่างสดชื่นในวันรุ่งขึ้น แต่บางทีอาจมีบางค่ำคืนที่ต่างไปจากเดิม ไม่มีใครคาดหวังให้มันเกิดขึ้น แต่เตรียมแผนบางแผนไว้บ้างก็ดีนะคะ ......
